กาแฟเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมของโลก มาจากเมล็ดของต้นกาแฟ ซึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์ และกระบวนการปลูก คั่ว และบดที่แตกต่างกันส่งผลต่อรสชาติของกาแฟแต่ละประเภท
กาแฟมีประวัติยาวนานนับพันปี เชื่อกันว่าต้นกำเนิดของกาแฟอยู่ที่ประเทศเอธิโอเปีย ตามตำนานเล่าว่ามีคนเลี้ยงแพะชื่อ "คาลดี" สังเกตเห็นว่าแพะของเขาตื่นตัวหลังจากกินผลกาแฟ ต่อมาเมล็ดกาแฟจึงถูกนำมาทดลองใช้เป็นเครื่องดื่ม กระจายไปยังตะวันออกกลาง ยุโรป และทั่วโลก จนกลายเป็นวัฒนธรรมการดื่มที่หลากหลาย
กาแฟเป็นมากกว่าเครื่องดื่ม แต่เป็นศิลปะ วัฒนธรรม และธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาล การเข้าใจถึงที่มาของกาแฟ ชนิดของเมล็ด การคั่ว การชง และการขาย จะช่วยให้เราเพลิดเพลินกับกาแฟได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นคอกาแฟที่ต้องการรสชาติที่ดีที่สุด หรือผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างธุรกิจกาแฟ การเรียนรู้เกี่ยวกับกาแฟจะทำให้คุณมีความเข้าใจและมีความสุขกับเครื่องดื่มนี้มากขึ้น
อาราบิก้า (Arabica) – มีรสชาตินุ่ม หอม และมีกรดที่ให้ความเปรี้ยวเล็กน้อย เป็นที่นิยมในกาแฟพิเศษ
โรบัสต้า (Robusta) – มีรสเข้มข้น ขม และคาเฟอีนสูง นิยมใช้ในกาแฟสำเร็จรูปและเอสเพรสโซ
ไลเบอริกา (Liberica) – พบได้น้อยกว่าสองชนิดแรก มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและรสขมเข้ม
เอ็กซ์เซลซ่า (Excelsa) – มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์และรสชาติที่ซับซ้อน
ช่วยกระตุ้นสมองและเพิ่มพลังงาน
มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดความเสี่ยงของโรคบางชนิด
ส่งเสริมการเผาผลาญไขมันและช่วยลดน้ำหนัก
ลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์และพาร์กินสัน
การขายกาแฟเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ตั้งแต่ร้านกาแฟขนาดเล็กไปจนถึงแฟรนไชส์ขนาดใหญ่ การเลือกใช้เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ กระบวนการคั่วและชงที่เหมาะสม และการบริการที่ดีมีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจ
คุณภาพของเมล็ดกาแฟ – คัดเลือกเมล็ดกาแฟที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า
กระบวนการคั่วและชง – ใช้วิธีการที่เหมาะสมเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด
บรรยากาศและการบริการ – สร้างความประทับใจให้ลูกค้าเพื่อให้กลับมาใช้บริการอีก
การตลาดและโปรโมชั่น – ใช้สื่อออนไลน์และกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อเพิ่มยอดขาย
Drip / Pour Over
วิธีชงกาแฟที่กำลังเป็นที่นิยมในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยหัวใจสำคัญของการดริปกาแฟคือ การใช้น้ำร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสม ค่อย ๆ รินผ่านเมล็ดกาแฟบดหยาบที่อยู่บนกรวยหรือกระดาษกรอง ปล่อยให้น้ำไหลผ่านและหยดลงบนเหยือกที่รองอยู่ด้านล่าง ถือว่าต้องใช้เวลาและจังหวะที่พอเหมาะทีเดียว ใครที่สนใจวิธีชงกาแฟนี้ก็สามารถไปส่อง เจาะลึกวิธีดริปกาแฟแบบ step by step ได้เลย
French Press
อีกหนึ่งวิธีการชงกาแฟที่สุดแสนจะง่าย และใช้อุปกรณ์น้อยสุด ๆ แค่มีอุปกรณ์ชงกาแฟแบบ French Press ก็สามารถทำได้แล้ว โดยวิธีการคือ นำกาแฟบดใส่ลงไปในที่ชง ตามด้วยน้ำร้อนแช่ไว้ประมาณ 4 นาที เสร็จแล้วค่อย ๆ กดตัวกรองลงไป เพื่อที่จะสกัดน้ำออกจากเมล็ด ซึ่งวิธีการชงนี้จะทำให้เราได้รับรสชาติและคาเฟอีนแบบโดยตรง
Moka pot
วิธีการชงกาแฟแบบฉบับคนอิตาลี ซึ่งวิธีการมีเพียงแค่นำหม้อ Moka pot ที่ประกอบไปด้วยช่องใส่น้ำร้อน และกาแฟบด เมื่อรินและใส่วัตถุดิบครบตามบริมาณแล้วจึงนำหม้อไปตั้งเตา รอจนน้ำเดือดและมีแรงดันจนทำให้กาแฟสกัดออกมาได้ เหมาะกับทำเมนูกาแฟเข้มข้น หอมกรุ่น ตามสไตล์อิตาลีเมืองแห่งกาแฟเอสเปรสโซ
AeroPress
วิธีการชงกาแฟแบบสมัยใหม่ เป็นที่นิยมเมื่อไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา โดยอุปกรณ์ในการชงจะเป็นทรงกระบอก เมื่อต้องการชงเพียงแค่ใส่เมล็ดกาแฟบดและน้ำร้อนในอุณภูมิที่เหมาะสมกับเมล็กนั้น ๆ และค่อย ๆ ดันลูกสูบของกระบอกลงมาเพื่อสร้างแรงดันอากาศ สกัดกาแฟผ่านตัวกรองและลงมาสู่แก้ว ใครอยากศึกษาแบบละเอียดก็สามารถตามดู วิธีทำกาแฟแบบ Aeropress
เมล็ดกาแฟที่ถูกนำมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่มกาแฟหอมกรุ่นในปัจจุบัน มีหลากหลายสายพันธุ์ที่ให้รสชาติที่แตกต่างกัน โดยเมื่อนำมาเข้าสู่กรรมวิธีการผลิต ก็จะได้เมล็ดกาแฟสด บด คั่ว ที่ใช้ชงเมนูเครื่องดื่มกาแฟทั้งร้อนและเย็นถูกใจบรรดาคอกาแฟ สำหรับบทความนี้ ไทยรัฐออนไลน์จะพามาทำความรู้จักกับ "เมล็ดกาแฟ" ว่ามีที่มาจากไหน มีกี่ชนิด และมีสายพันธุ์ใดที่ได้รับความนิยมบ้าง พร้อมกับประโยชน์น่ารู้ของเมล็ดกาแฟที่เป็นมากกว่าเครื่องดื่ม ทำความรู้จัก "เมล็ดกาแฟ" คืออะไร มาจากไหน? เมล็ดกาแฟ (ภาษาอังกฤษ : Coffee Bean) คือ เมล็ดที่มาจากผลเชอร์รี่ของต้นไม้ในตระกูล Coffea ที่นิยมนำไปแปรรูปเป็นเครื่องดื่มกาแฟที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน ซึ่งต้นกาแฟมีหลายสายพันธุ์ โดยแต่ละสายพันธุ์ก็มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกัน เมล็ดกาแฟเหล่านี้จะถูกนำไปคั่วจนกลายเป็นเมล็ดสีดำหรือน้ำตาล ส่วนรสชาติจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับวิธีการชงและส่วนผสมต่างๆ เช่น ลาเต้ คาปูชิโน่ มอคค่า เป็นต้น